บริการจำหน่ายสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็กเสริมพัฒนาการ

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ
  • K-MOM AND BABY
  • อาณาจักรสินค้าแม่ และเด็ก แบบครบวงจร
  • ของเล่นเด็ก ของเล่นเสริมพัฒนาการ
รายการทั้งหมด

ทีมงาน และบรรยากาศ

MANEGER

คุณเกสร บริหารจัดการร้านได้เป็นอย่างดี จัดโปรโมชั่นส่วนลดได้สุดปัง

SALES

คุณไกรลาส นักขายมือหนึ่ง ที่ตามใจลูกค้าได้ทุกอย่าง

SALE

คุณนิศา ขายเก่ง ให้คำแนะนำการใช้งานได้ดี มีความซื่อสัตย์

VDO
Praesentation

สนใจติดต่อสั่งซื้อสินค้า สอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์ ติดต่อทางเราที่หน้าร้าน หรือไลน์สอบถามข้อมูลได้เลย

รีวิวลูกค้าจริง ร้านขายอุปกรณ์ของใช้เด็กอ่อน

ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่รีวิวให้ ทางเราจะพัฒนาการให้บริการดียิ่งขึ้นค่ะ

คุณจ๊อบ

" สินค้ามีคุณภาพมากครับ พนักงานบริการดีมาก "

26 พ.ย. 2558

คุณส้ม

" สินค้ามีคุณภาพเเละมาตรฐานดีค่ะ พนักงานใส่ใจให้คำปรึกษาดีมาก บริการดีเหมาะกับคุณเเม่มือใหม่ทั้งหลายค่ะ "

10 ม.ค. 2563

คุณจุ้ย

" ที่นอนเด็กคุณภาพดีมาก ไม่มีตะเข็บด้าย ซักแล้วไม่เป็นขุย หนานุ่ม ราคาประหยัด ระบายความร้อนได้ดีค่ะ ถูกใจมาก "

26 พ.ย. 2558

เรามีโปรโมชั่นให้ ราคาคุ้มค่าที่สุด คุณภาพทุกงาน บริการสุดประทับใจ

ให้คำปรึกษาเรื่องเลือกซื้อสั่งทำเฟอร์นิเจอร์ โดยผู้เชี่ยวชาญ ประสบการณ์กว่า 20 ปี มีบริการออกแบบเฟอร์นิเจอร์บิ้วอินเฉพาะชิ้น เช่น เตียงนอน, ตู้โชว์, ตู้เสื้อผ้า, โซฟา, บาร์นั่ง โดยลูกค้าสามารถเลือกวัสดุเองได้ ตามความชอบที่ลูกค้าออกแบบมา

รู้ทันโรคซึมเศร้าหลังคลอด สาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง และวิธีดูแลตัวเอง

คุณแม่หลายท่านอาจทราบกันดีอยู่แล้วว่า อารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นหลังคลอดนั้น ถือเป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ ซึ่งภาวะนี้จะทำให้คุณแม่มีอารมณ์เศร้า กังวลง่าย ร้องไห้ง่าย และจะอยู่ในช่วงเวลาแบบนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วจะหายไปเอง แต่มีอีกหนึ่งภาวะที่ไม่ถือเป็นเรื่องปกติ นั่นก็คือ โรคซึมเศร้าหลังคลอด ซึ่งถือเป็นโรคที่ต้องรีบรักษาอย่างเร่งด่วน วันนี้เราจึงอยากชวนให้คุณแม่และทุกคนที่ใกล้ชิดกับคุณแม่หลังคลอดมาทำความเข้าใจในเรื่องนี้กันค่ะ
 
โรคซึมเศร้าหลังคลอด คืออะไร
โรคซึมเศร้าหลังคลอด หรือเรียกว่า postpartum depression คือ โรคที่มีลักษณะอาการนอนไม่หลับ ร้องไห้บ่อย อ่อนไหวง่าย เบื่ออาหาร มีอารมณ์หงุดหงิด ความผูกพันกับลูกน้อยหายไป บางรายอยากทำร้ายตัวเอง หรือไม่ก็ทำร้ายลูก ซึ่งอาการนี้จะมีตั้งแต่ 2 สัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน เป็นอาการที่ไม่สามารถหายเองได้ จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
 
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าหลังคลอด
ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้านั้นมีอยู่มากมาย แต่ที่เห็นได้ชัดมากที่สุดเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
 
1.ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงหลังคลอด
เกิดจากการที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เนื่องจากหลังคลอด ฮอร์โมนบางตัวในร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีโอกาสที่จะไปกระทบกับเรื่องอารมณ์ของคุณแม่ได้โดยตรง
 
2.ความเครียด
ความเครียดจะอยู่กับคุณแม่ตั้งแต่ระหว่างตั้งครรภ์ไปจนถึงระหว่างคลอด โดยคุณแม่มักจะมีความกังวลในเรื่องของการเลี้ยงลูกเป็นส่วนใหญ่ บวกกับเป็นกังวลในเรื่องของหน้าที่การงาน เรื่อการเงิน และเรื่องความสัมพันธ์ภายในครอบครัว เป็นต้น โดยสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าหลังคลอดอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก โดยเฉพาะถ้าคุณแม่เป็นคนที่รักการทำงาน แต่เมื่ออยู่ในช่วงลาคลอด จะมีความรู้สึกเครียด เพราะไม่สามารถออกไปทำงาน และต้องเลี้ยงดูลูกอยู่บ้าน บางรายถึงขั้นคิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ตลอดจนทำให้เกิดเป็นโรคซึมเศร้าตามมา
 
ปัจจัยเสี่ยงของโรคซึมเศร้าหลังคลอด
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าหลังคลอดสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
 
1.มีภาวะซึมเศร้ามาก่อน
คุณแม่หลังคลอดเคยมีภาวะซึมเศร้ามาก่อน หรืออาจจะเคยเป็นโรคทางอารมณ์มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ซึมเศร้าหรือไบโพล่าก็ตาม รวมทั้งการมีสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นโรคทางอารมณ์มาก่อน ก็ย่อมเสี่ยงต่อการที่คุณแม่จะเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้
 
2.มีความเครียดมากเกินไป
ความเครียดที่มีมากจนเกินไป ซึ่งอาจจะเกิดการสะสมตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ไปจนถึงหลังคลอด ย่อมเสี่ยงต่อการทำให้คุณแม่เป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้ ดังนั้นคนในครอบครัวจะต้องพยายามแบ่งเบาและคอยช่วยเหลือคุณแม่ เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดมากจนเกินไป ซึ่งอาจเสี่ยงทำให้เกิดโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้สูง
 
วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด
เมื่อคุณแม่และคนในครอบครัวเริ่มรู้ว่าคุณแม่เป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนจะต้องหมั่นคอยดูแลคุณแม่ ซึ่งการดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดสามารถทำตามได้ดังนี้
 
1.พักผ่อนให้เพียงพอ
คุณแม่จะต้องให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ นั่นแสดงว่าต้องอาศัยการช่วยเหลือของคนรอบข้าง โดยคนอื่นๆ สามารถดูแลลูกน้อยแทนคุณแม่ เพื่อให้คุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนเพียงพอ จะช่วยลดความเครียดสะสม ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้
 
2.ทำจิตบำบัด
การทำจิตบำบัด จะช่วยให้คุณแม่เข้าใจความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมต่างๆ ของตัวเอง โดยการทำจิตบำบัดนั้นจะเน้นให้คุณแม่อารมณ์ดีขึ้น เพื่อที่จะสามารถกำจัดความเครียดที่เกิดขึ้นได้
 
3.ใช้ยารักษา
คุณแม่ที่เป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดบางราย จำเป็นต้องใช้ยาเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า ซึ่งการใช้ยารักษานั้นคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินอาการและทำข้อตกลงร่วมกับคุณแม่อีกครั้ง เนื่องจากการใช้ยารักษาโรคซึมเศร้านั้นให้ทั้งข้อดีและข้อเสียไปพร้อมๆ กัน
 
จะเห็นได้ว่าโรคซึมเศร้ามีปัจจัยเสี่ยงที่คุณแม่หลังคลอดแทบจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย โดยเฉพาะความเครียด ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อคุณแม่หลังคลอดมากจนเกินไป แนะนำให้ทุกคนในครอบครัว คอยหมั่นสังเกตอาการของคุณแม่หลังคลอด และคอยให้ความช่วยเหลือคุณแม่ในด้านต่างๆ ที่พอจะช่วยแบ่งเบาแรงกายของคุณแม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้มีส่วนช่วยลดความเครียดให้กับคุณแม่ได้ดีเลยทีเดียว
 
อ้างอิงเนื้อหาจาก https://www.sanook.com/women/194765/
22 ก.พ. 2567

6 สารอาหารที่คุณแม่หลังคลอดควรทาน ดีต่อสุขภาพ ทำน้ำหนักลงไว

รายละเอียดสินค้าเชื่อว่าคุณแม่หลังคลอดหลายท่านมีความกังวลกับปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมสารอาหาร 6 ชนิดที่มีส่วนช่วยให้น้ำหนักของคุณแม่หลังคลอดลดลงได้อย่างปลอดภัยมาบอกกันค่ะ มาดูกันค่ะว่าสารอาหารชนิดใดบ้างที่คุณแม่ไม่ควรพลาด
 
1.ธาตุเหล็ก
หลังคลอด หากร่างกายของคุณแม่มีสารอาหารอย่างธาตุเหล็กไม่เพียงพอ จะส่งผลทำให้เกิดปัญหาเลือดจาง เหนื่อย อ่อนเพลีย และมีอาการซีดได้ ดังนั้นจึงถือว่าธาตุเหล็กคือสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่หลังคลอดอย่างมาก โดยอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก ได้แก่ ข้าวโอ๊ต เต้าหู้ และถั่วแดง หากคุณแม่กินธาตุเหล็กควบคู่กับวิตามินซี จะยิ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญหากร่างกายขาดธาตุเหล็ก จะส่งผลกระทบต่อระบบเผาผลาญในร่างกายได้
 
2.แคลเซียม
แคลเซียมคือสารอาหารที่หากร่างกายมีไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดปัญหากระดูกพรุน กร่อน ผุ และแตกหักง่าย หากคุณแม่กินอาหารที่มีแคลเซียมควบคู่กับวิตามินดี จะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างมาก สำหรับอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมที่แนะนำให้กินได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากนม นม โยเกิร์ต และปลาตัวเล็ก ในกรณีที่ร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาต่อกระดูกแล้ว ยังทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญไขมันที่สะสมได้ดีพอ
 
3.วิตามินดี
วิตามินดีคือสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีมากๆ อีกทั้งยังเป็นสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดีอีกด้วย ในส่วนของอาหารที่อุดมด้วยวิตามินดีได้แก่ ถั่วชนิดต่างๆ และปลาแซลมอน นอกจากนี้วิตามินดียังสามารถเกิดขึ้นได้จากแสงแดดในยามเช้า ดังนั้นหากคุณแม่ออกมารับแดดในตอนเช้า ก็จะช่วยให้ร่างกายได้สัมผัสกับวิตามินดีไปด้วย
 
4.กรดโฟลิก
กรดโฟลิกเป็นสารอาหารที่คุณแม่หลังคลอด โดยเฉพาะคุณแม่ที่ให้นมลูกควรกินให้ได้ประมาณ 280 ไมโครกรัมในช่วง 6 เดือนแรก และควรกินให้ได้ประมาณ 260 ไมโครกรัมในช่วง 6 เดือนหลัง ในส่วนของกรดโฟลิกจะอุดมอยู่ในอาหารจำพวกแครอท แคนตาลูป ฟักทอง ผักใบเขียว ตับ และไข่แดง
 
5.ไอโอดีน
ไอโอดีนคือสารอาหารที่ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดขาดไม่ได้เลย เพราะอาจทำให้เป็นโรคไฮโปไทรอยด์ หรือโรคคอพอก สำหรับอาหารที่อุดมด้วยไอโอดีนได้แก่เกลือทะเล อาหารทะเล ผักใบเขียว ผักคะน้า และเกลือที่มีการเติมสารไอโอดีน เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารชนิดนี้ได้อย่างเพียงพอ ก็จะทำให้เกิดความสมดุล ส่งผลให้ระบบการเผาผลาญในร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
 
6.วิตามินบี12
วิตามินบี12 เป็นสารอาหารที่มีหน้าที่สร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งหากร่างกายของคุณแม่หลังคลอดขาดวิตามินบี12 ไป ก็ส่งผลให้เกิดความเครียด กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นอ่อนลง รวมถึงมีอาการชาตามปลายมือและปลายเท้า สำหรับอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี12 ได้แก่ เนื้อปลา เนื้อสัตว์ต่างๆ และอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน
 
สารอาหาร 6 ชนิดนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ระบบเผาผลาญของคุณแม่หลังคลอดทำงานได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ห่างไกลจากภาวะอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย
 
อ้างอิงเนื้อหาจาก https://www.sanook.com/women/195921/
22 ก.พ. 2567

5 วิธีดูแลแผลหลังคลอดให้ปลอดภัยหลังออกจากโรงพยาบาลแล้ว

หลังออกจากโรงพยาบาลแล้ว คุณแม่หลังคลอดจะต้องดูแลแผลให้ดี ไม่ว่าแผลหลังคลอดจะเป็นแผลคลอดเองตามธรรมชาติหรือเป็นแผลผ่าตัดก็ตาม วันนี้เราจึงรวบรวม 5 วิธีการดูแลแผลหลังคลอดด้วยตัวเอง หลังจากที่คุณแม่ออกจากโรงพยาบาลแล้วมาบอกให้ได้ทราบกันค่ะ
 
1.ซับแผลเบาๆ ให้แห้ง
สำหรับคุณแม่ที่คลอดเองตามธรรมชาติ จะมีแผลฝีเย็บ ซึ่งการดูแลแผลฝีเย็บทำได้ด้วยการอาบน้ำฟอกสบู่ตามปกติ แต่จะต้องให้ความสำคัญตรงที่การซับแผลเบาๆ และให้แห้ง ทั้งนี้ไม่แนะนำให้คุณแม่อาบน้ำคลอง หรือลงสระว่ายน้ำ รวมทั้งการอาบน้ำด้วยฝักบัวก็ไม่แนะนำให้ทำ เนื่องจากการเอาฝักบัวฉีดใส่บริเวณที่เป็นแผลฝีเย็บ มีโอกาสที่จะทำให้แผลแยกได้สูงมาก
 
2.ห้ามเกา แคะ หรือแกะแผล
ในกรณีที่คุณแม่ผ่าคลอด บริเวณแผลผ่าตัดจะมีรอยคราบพลาสเตอร์หลงเหลืออยู่ บางครั้งอาจมีเป็นสะเก็ดแผล ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคัน ทั้งนี้ห้ามคุณแม่เกา แคะ หรือแกะแผลเด็ดขาด เพราะหากเผลอไปเกา แคะ หรือแกะแผล โอกาสที่จะทำให้แผลผ่าตัดแยกและติดเชื้อได้ง่าย หากมีอาการคัน หรือมีรอยพลาสเตอร์หลงเหลืออยู่ แนะนำให้ใช้วิธีการทำความสะอาด โดยเช็ดบริเวณดังกล่าวแต่เพียงเบาๆ
 
3.ห้ามแกะพลาสเตอร์ปิดแผลด้วยตัวเอง
ตรงบริเวณหน้าท้องของคุณแม่ผ่าคลอด จะมีพลาสเตอร์ปิดแผลเอาไว้ ซึ่งคุณแม่ห้ามแกะพลาสเตอร์ปิดแผลด้วยตัวเองเด็ดขาด เพราะการแกะพลาสเตอร์ปิดแผลจะเป็นหน้าที่ของคุณหมอ หากคุณแม่แกะพลาสเตอร์เอง อาจทำให้แผลสัมผัสกับสิ่งสกปรกต่างๆ และติดเชื้อได้ แต่ในกรณีที่มีเลือดออกเยอะ และยังไม่ถึงเวลาแกะพลาสเตอร์ คุณแม่สามารถรีบไปพบคุณหมอก่อนถึงวันนัดได้ทันที
 
4.ห้ามสวนล้างช่องคลอด
แน่นอนว่าหลังคลอดจะมีน้ำคาวปลาออกมา ซึ่งคุณแม่ไม่จำเป็นที่จะต้องสวนล้างช่องคลอด ทั้งนี้คุณแม่สามารถทำความสะอาดแค่บริเวณภายนอกก็เพียงพอแล้ว หากเป็นกังวลในเรื่องของน้ำคาวปลาที่ออกมาเยอะ ก็สามารถเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ได้ รวมทั้งการล้างทำความสะอาดหลังการขับถ่าย จะต้องล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง และซับให้แห้งเสมอ
 
5.ห้ามยกของหนัก
คุณแม่หลังคลอดไม่ควรทำงานบ้านหรือยกของหนักๆ เด็ดขาด เพราะการยกของหนัก มีโอกาสที่จะทำให้ตกเลือดหลังคลอดสูงมาก อีกทั้งยังทำให้มดลูกเข้าอู่ได้ช้าอีกด้วย นอกจากนี้คุณแม่ที่คลอดธรรมชาติไม่ควรนั่งยองหรือนั่งขัดสมาธิ เพราะหลังคลอดใหม่ๆ แผลยังติดไม่ดี หากเผลอนั่งในท่าดังกล่าว อาจทำให้แผลปริหรือแผลแยกได้
 
กลับมาดูแลรักษาตัวเองที่บ้าน คุณแม่อย่าลืมดูแลแผลหลังคลอดให้ดีด้วยนะคะ ซึ่ง 5 วิธีที่เราได้กล่าวไปข้างต้นนั้น จะช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลแผลฝีเย็บหรือแผลผ่าตัดได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยให้แผลหลังคลอดหายเร็วขึ้นอีกด้วย
 
อ้างอิงเนื้อหาจาก https://www.sanook.com/women/194289/
22 ก.พ. 2567

ติดต่อเรา

71/2-13 โครงการโอโซนพลาซ่า ห้อง H1C,H2C ถนนคู้บอน แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กรุงทพฯ 10230

Our Phone

Facebook

Our Line

ส่งข้อความหาเรา

ลูกค้าสามารถพิมพ์ข้อความที่ต้องการสอบถามได้จากฟอร์มด้านล่าง เมื่อทีมงานได้รับข้อความแล้ว จะติดต่อกลับลูกค้าโดยเร็วที่สุด

เป้อุ้มเด็ก

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

รถเข็นเด็ก

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

เก้าอี้หัดนั่ง เบาะหัดนั่ง เบาะเป่าลม

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

คาร์ซีท

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

เครื่องปั้มนมไฟฟ้า แบบปั้มคุ๋

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

ถุงเก็บน้ำนมแม่

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

เข็มขัดรัดหน้าท้องหลังคลอด รัดเอว รัดหน้าท้อง

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

แผ่นซับนำ้นม

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

แปรงล้างขวดนม

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

กระดาษทิชชู่เปียกออแกนิกสำหรับเด็ก

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

กรรโกรตัดเล็บสำหรับเด็ก

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

ขวดนมสำหรับเด็กลายการ์ตุนน่ารัก

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

ที่นอนเด็ก

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

หมอนหลุมรูปสัตว์น่ารักๆ

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

กระเป๋าคุณเเม่

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

เปลโยกเด็ก

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

ผ้าห่ม ผ้าห่อตัวสำหรับเด็ก

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

เพลยิม

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

รถของเล่นสำหรับเด็ก

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

ยางกัดซิลิโคนเนื้อตัวการ์ตูน

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

ของเล่นบล๊อกไม้รูปเรขาคณิต

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

ของเล่นบอลเขย่ามีเสียง

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

รถหัดเดิน สำหรับเด็ก

เว็บไซต์จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างการให้บริการในธุรกิจสินค้าแม่และเด็ก ของเล่นเด็ก ไม่มีการดำเนินการจริงแต่อย่างใด ข้อความ และรูปภาพต่างๆ นำมาจากใน internet และได้อ้างอิงถึงเนื้อหาไว้เรียบร้อยแล้ว และขอบคุณสำหรับรูปภาพ และเนื้อหาบทความต่างๆ

รู้ทันโรคซึมเศร้าหลังคลอด สาเหตุ ปัจจัยเสี่ยง และวิธีดูแลตัวเอง

คุณแม่หลายท่านอาจทราบกันดีอยู่แล้วว่า อารมณ์เศร้าที่เกิดขึ้นหลังคลอดนั้น ถือเป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นกับคุณแม่ ซึ่งภาวะนี้จะทำให้คุณแม่มีอารมณ์เศร้า กังวลง่าย ร้องไห้ง่าย และจะอยู่ในช่วงเวลาแบบนี้ประมาณ 1 สัปดาห์ แล้วจะหายไปเอง แต่มีอีกหนึ่งภาวะที่ไม่ถือเป็นเรื่องปกติ นั่นก็คือ โรคซึมเศร้าหลังคลอด ซึ่งถือเป็นโรคที่ต้องรีบรักษาอย่างเร่งด่วน วันนี้เราจึงอยากชวนให้คุณแม่และทุกคนที่ใกล้ชิดกับคุณแม่หลังคลอดมาทำความเข้าใจในเรื่องนี้กันค่ะ
 
โรคซึมเศร้าหลังคลอด คืออะไร
โรคซึมเศร้าหลังคลอด หรือเรียกว่า postpartum depression คือ โรคที่มีลักษณะอาการนอนไม่หลับ ร้องไห้บ่อย อ่อนไหวง่าย เบื่ออาหาร มีอารมณ์หงุดหงิด ความผูกพันกับลูกน้อยหายไป บางรายอยากทำร้ายตัวเอง หรือไม่ก็ทำร้ายลูก ซึ่งอาการนี้จะมีตั้งแต่ 2 สัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือน เป็นอาการที่ไม่สามารถหายเองได้ จำเป็นต้องได้รับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด
 
สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าหลังคลอด
ในส่วนของสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้านั้นมีอยู่มากมาย แต่ที่เห็นได้ชัดมากที่สุดเกิดจากสาเหตุดังต่อไปนี้
 
1.ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงหลังคลอด
เกิดจากการที่ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง เนื่องจากหลังคลอด ฮอร์โมนบางตัวในร่างกายจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งมีโอกาสที่จะไปกระทบกับเรื่องอารมณ์ของคุณแม่ได้โดยตรง
 
2.ความเครียด
ความเครียดจะอยู่กับคุณแม่ตั้งแต่ระหว่างตั้งครรภ์ไปจนถึงระหว่างคลอด โดยคุณแม่มักจะมีความกังวลในเรื่องของการเลี้ยงลูกเป็นส่วนใหญ่ บวกกับเป็นกังวลในเรื่องของหน้าที่การงาน เรื่อการเงิน และเรื่องความสัมพันธ์ภายในครอบครัว เป็นต้น โดยสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าหลังคลอดอย่างหลีกเลี่ยงได้ยาก โดยเฉพาะถ้าคุณแม่เป็นคนที่รักการทำงาน แต่เมื่ออยู่ในช่วงลาคลอด จะมีความรู้สึกเครียด เพราะไม่สามารถออกไปทำงาน และต้องเลี้ยงดูลูกอยู่บ้าน บางรายถึงขั้นคิดว่าตัวเองไม่มีคุณค่า ตลอดจนทำให้เกิดเป็นโรคซึมเศร้าตามมา
 
ปัจจัยเสี่ยงของโรคซึมเศร้าหลังคลอด
สำหรับปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าหลังคลอดสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
 
1.มีภาวะซึมเศร้ามาก่อน
คุณแม่หลังคลอดเคยมีภาวะซึมเศร้ามาก่อน หรืออาจจะเคยเป็นโรคทางอารมณ์มาก่อน ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์ซึมเศร้าหรือไบโพล่าก็ตาม รวมทั้งการมีสมาชิกในครอบครัวเคยเป็นโรคทางอารมณ์มาก่อน ก็ย่อมเสี่ยงต่อการที่คุณแม่จะเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้
 
2.มีความเครียดมากเกินไป
ความเครียดที่มีมากจนเกินไป ซึ่งอาจจะเกิดการสะสมตั้งแต่ช่วงตั้งครรภ์ไปจนถึงหลังคลอด ย่อมเสี่ยงต่อการทำให้คุณแม่เป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้ ดังนั้นคนในครอบครัวจะต้องพยายามแบ่งเบาและคอยช่วยเหลือคุณแม่ เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดมากจนเกินไป ซึ่งอาจเสี่ยงทำให้เกิดโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้สูง
 
วิธีดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด
เมื่อคุณแม่และคนในครอบครัวเริ่มรู้ว่าคุณแม่เป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอด จำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกคนจะต้องหมั่นคอยดูแลคุณแม่ ซึ่งการดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดสามารถทำตามได้ดังนี้
 
1.พักผ่อนให้เพียงพอ
คุณแม่จะต้องให้เวลาตัวเองได้พักผ่อนอย่างเพียงพอ นั่นแสดงว่าต้องอาศัยการช่วยเหลือของคนรอบข้าง โดยคนอื่นๆ สามารถดูแลลูกน้อยแทนคุณแม่ เพื่อให้คุณแม่ได้มีเวลาพักผ่อนเพียงพอ จะช่วยลดความเครียดสะสม ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคซึมเศร้าหลังคลอดได้
 
2.ทำจิตบำบัด
การทำจิตบำบัด จะช่วยให้คุณแม่เข้าใจความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมต่างๆ ของตัวเอง โดยการทำจิตบำบัดนั้นจะเน้นให้คุณแม่อารมณ์ดีขึ้น เพื่อที่จะสามารถกำจัดความเครียดที่เกิดขึ้นได้
 
3.ใช้ยารักษา
คุณแม่ที่เป็นโรคซึมเศร้าหลังคลอดบางราย จำเป็นต้องใช้ยาเพื่อรักษาโรคซึมเศร้า ซึ่งการใช้ยารักษานั้นคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินอาการและทำข้อตกลงร่วมกับคุณแม่อีกครั้ง เนื่องจากการใช้ยารักษาโรคซึมเศร้านั้นให้ทั้งข้อดีและข้อเสียไปพร้อมๆ กัน
 
จะเห็นได้ว่าโรคซึมเศร้ามีปัจจัยเสี่ยงที่คุณแม่หลังคลอดแทบจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้เลย โดยเฉพาะความเครียด ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลเสียต่อคุณแม่หลังคลอดมากจนเกินไป แนะนำให้ทุกคนในครอบครัว คอยหมั่นสังเกตอาการของคุณแม่หลังคลอด และคอยให้ความช่วยเหลือคุณแม่ในด้านต่างๆ ที่พอจะช่วยแบ่งเบาแรงกายของคุณแม่ได้ เพราะสิ่งเหล่านี้มีส่วนช่วยลดความเครียดให้กับคุณแม่ได้ดีเลยทีเดียว
 
อ้างอิงเนื้อหาจาก https://www.sanook.com/women/194765/

6 สารอาหารที่คุณแม่หลังคลอดควรทาน ดีต่อสุขภาพ ทำน้ำหนักลงไว

รายละเอียดสินค้าเชื่อว่าคุณแม่หลังคลอดหลายท่านมีความกังวลกับปัญหาเรื่องน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ซึ่งวันนี้เราได้รวบรวมสารอาหาร 6 ชนิดที่มีส่วนช่วยให้น้ำหนักของคุณแม่หลังคลอดลดลงได้อย่างปลอดภัยมาบอกกันค่ะ มาดูกันค่ะว่าสารอาหารชนิดใดบ้างที่คุณแม่ไม่ควรพลาด
 
1.ธาตุเหล็ก
หลังคลอด หากร่างกายของคุณแม่มีสารอาหารอย่างธาตุเหล็กไม่เพียงพอ จะส่งผลทำให้เกิดปัญหาเลือดจาง เหนื่อย อ่อนเพลีย และมีอาการซีดได้ ดังนั้นจึงถือว่าธาตุเหล็กคือสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่หลังคลอดอย่างมาก โดยอาหารที่อุดมด้วยธาตุเหล็ก ได้แก่ ข้าวโอ๊ต เต้าหู้ และถั่วแดง หากคุณแม่กินธาตุเหล็กควบคู่กับวิตามินซี จะยิ่งช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้ดีมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญหากร่างกายขาดธาตุเหล็ก จะส่งผลกระทบต่อระบบเผาผลาญในร่างกายได้
 
2.แคลเซียม
แคลเซียมคือสารอาหารที่หากร่างกายมีไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดปัญหากระดูกพรุน กร่อน ผุ และแตกหักง่าย หากคุณแม่กินอาหารที่มีแคลเซียมควบคู่กับวิตามินดี จะยิ่งดีต่อสุขภาพร่างกายอย่างมาก สำหรับอาหารที่อุดมด้วยแคลเซียมที่แนะนำให้กินได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากนม นม โยเกิร์ต และปลาตัวเล็ก ในกรณีที่ร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย นอกจากจะทำให้เกิดปัญหาต่อกระดูกแล้ว ยังทำให้ร่างกายไม่สามารถเผาผลาญไขมันที่สะสมได้ดีพอ
 
3.วิตามินดี
วิตามินดีคือสารอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีมากๆ อีกทั้งยังเป็นสารอาหารที่ช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมแคลเซียมได้ดีอีกด้วย ในส่วนของอาหารที่อุดมด้วยวิตามินดีได้แก่ ถั่วชนิดต่างๆ และปลาแซลมอน นอกจากนี้วิตามินดียังสามารถเกิดขึ้นได้จากแสงแดดในยามเช้า ดังนั้นหากคุณแม่ออกมารับแดดในตอนเช้า ก็จะช่วยให้ร่างกายได้สัมผัสกับวิตามินดีไปด้วย
 
4.กรดโฟลิก
กรดโฟลิกเป็นสารอาหารที่คุณแม่หลังคลอด โดยเฉพาะคุณแม่ที่ให้นมลูกควรกินให้ได้ประมาณ 280 ไมโครกรัมในช่วง 6 เดือนแรก และควรกินให้ได้ประมาณ 260 ไมโครกรัมในช่วง 6 เดือนหลัง ในส่วนของกรดโฟลิกจะอุดมอยู่ในอาหารจำพวกแครอท แคนตาลูป ฟักทอง ผักใบเขียว ตับ และไข่แดง
 
5.ไอโอดีน
ไอโอดีนคือสารอาหารที่ร่างกายของคุณแม่หลังคลอดขาดไม่ได้เลย เพราะอาจทำให้เป็นโรคไฮโปไทรอยด์ หรือโรคคอพอก สำหรับอาหารที่อุดมด้วยไอโอดีนได้แก่เกลือทะเล อาหารทะเล ผักใบเขียว ผักคะน้า และเกลือที่มีการเติมสารไอโอดีน เมื่อร่างกายได้รับสารอาหารชนิดนี้ได้อย่างเพียงพอ ก็จะทำให้เกิดความสมดุล ส่งผลให้ระบบการเผาผลาญในร่างกายสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
 
6.วิตามินบี12
วิตามินบี12 เป็นสารอาหารที่มีหน้าที่สร้างเม็ดเลือดแดง ซึ่งหากร่างกายของคุณแม่หลังคลอดขาดวิตามินบี12 ไป ก็ส่งผลให้เกิดความเครียด กล้ามเนื้ออ่อนแรง หัวใจเต้นอ่อนลง รวมถึงมีอาการชาตามปลายมือและปลายเท้า สำหรับอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี12 ได้แก่ เนื้อปลา เนื้อสัตว์ต่างๆ และอาหารที่อุดมด้วยโปรตีน
 
สารอาหาร 6 ชนิดนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ระบบเผาผลาญของคุณแม่หลังคลอดทำงานได้อย่างเต็มที่เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ห่างไกลจากภาวะอื่นๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย
 
อ้างอิงเนื้อหาจาก https://www.sanook.com/women/195921/

5 วิธีดูแลแผลหลังคลอดให้ปลอดภัยหลังออกจากโรงพยาบาลแล้ว

หลังออกจากโรงพยาบาลแล้ว คุณแม่หลังคลอดจะต้องดูแลแผลให้ดี ไม่ว่าแผลหลังคลอดจะเป็นแผลคลอดเองตามธรรมชาติหรือเป็นแผลผ่าตัดก็ตาม วันนี้เราจึงรวบรวม 5 วิธีการดูแลแผลหลังคลอดด้วยตัวเอง หลังจากที่คุณแม่ออกจากโรงพยาบาลแล้วมาบอกให้ได้ทราบกันค่ะ
 
1.ซับแผลเบาๆ ให้แห้ง
สำหรับคุณแม่ที่คลอดเองตามธรรมชาติ จะมีแผลฝีเย็บ ซึ่งการดูแลแผลฝีเย็บทำได้ด้วยการอาบน้ำฟอกสบู่ตามปกติ แต่จะต้องให้ความสำคัญตรงที่การซับแผลเบาๆ และให้แห้ง ทั้งนี้ไม่แนะนำให้คุณแม่อาบน้ำคลอง หรือลงสระว่ายน้ำ รวมทั้งการอาบน้ำด้วยฝักบัวก็ไม่แนะนำให้ทำ เนื่องจากการเอาฝักบัวฉีดใส่บริเวณที่เป็นแผลฝีเย็บ มีโอกาสที่จะทำให้แผลแยกได้สูงมาก
 
2.ห้ามเกา แคะ หรือแกะแผล
ในกรณีที่คุณแม่ผ่าคลอด บริเวณแผลผ่าตัดจะมีรอยคราบพลาสเตอร์หลงเหลืออยู่ บางครั้งอาจมีเป็นสะเก็ดแผล ซึ่งจะทำให้เกิดอาการคัน ทั้งนี้ห้ามคุณแม่เกา แคะ หรือแกะแผลเด็ดขาด เพราะหากเผลอไปเกา แคะ หรือแกะแผล โอกาสที่จะทำให้แผลผ่าตัดแยกและติดเชื้อได้ง่าย หากมีอาการคัน หรือมีรอยพลาสเตอร์หลงเหลืออยู่ แนะนำให้ใช้วิธีการทำความสะอาด โดยเช็ดบริเวณดังกล่าวแต่เพียงเบาๆ
 
3.ห้ามแกะพลาสเตอร์ปิดแผลด้วยตัวเอง
ตรงบริเวณหน้าท้องของคุณแม่ผ่าคลอด จะมีพลาสเตอร์ปิดแผลเอาไว้ ซึ่งคุณแม่ห้ามแกะพลาสเตอร์ปิดแผลด้วยตัวเองเด็ดขาด เพราะการแกะพลาสเตอร์ปิดแผลจะเป็นหน้าที่ของคุณหมอ หากคุณแม่แกะพลาสเตอร์เอง อาจทำให้แผลสัมผัสกับสิ่งสกปรกต่างๆ และติดเชื้อได้ แต่ในกรณีที่มีเลือดออกเยอะ และยังไม่ถึงเวลาแกะพลาสเตอร์ คุณแม่สามารถรีบไปพบคุณหมอก่อนถึงวันนัดได้ทันที
 
4.ห้ามสวนล้างช่องคลอด
แน่นอนว่าหลังคลอดจะมีน้ำคาวปลาออกมา ซึ่งคุณแม่ไม่จำเป็นที่จะต้องสวนล้างช่องคลอด ทั้งนี้คุณแม่สามารถทำความสะอาดแค่บริเวณภายนอกก็เพียงพอแล้ว หากเป็นกังวลในเรื่องของน้ำคาวปลาที่ออกมาเยอะ ก็สามารถเปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อยๆ ได้ รวมทั้งการล้างทำความสะอาดหลังการขับถ่าย จะต้องล้างจากด้านหน้าไปด้านหลัง และซับให้แห้งเสมอ
 
5.ห้ามยกของหนัก
คุณแม่หลังคลอดไม่ควรทำงานบ้านหรือยกของหนักๆ เด็ดขาด เพราะการยกของหนัก มีโอกาสที่จะทำให้ตกเลือดหลังคลอดสูงมาก อีกทั้งยังทำให้มดลูกเข้าอู่ได้ช้าอีกด้วย นอกจากนี้คุณแม่ที่คลอดธรรมชาติไม่ควรนั่งยองหรือนั่งขัดสมาธิ เพราะหลังคลอดใหม่ๆ แผลยังติดไม่ดี หากเผลอนั่งในท่าดังกล่าว อาจทำให้แผลปริหรือแผลแยกได้
 
กลับมาดูแลรักษาตัวเองที่บ้าน คุณแม่อย่าลืมดูแลแผลหลังคลอดให้ดีด้วยนะคะ ซึ่ง 5 วิธีที่เราได้กล่าวไปข้างต้นนั้น จะช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลแผลฝีเย็บหรือแผลผ่าตัดได้ง่าย อีกทั้งยังเป็นวิธีที่ช่วยให้แผลหลังคลอดหายเร็วขึ้นอีกด้วย
 
อ้างอิงเนื้อหาจาก https://www.sanook.com/women/194289/